
หลายคนที่ต้องการจะทำเว็บไซต์ อาจจะพบปัญหาว่า ไม่รู้ว่าเว็บไซต์มีกี่ประเภท และไม่รู้ว่าเว็บไซต์ประเภทไหนที่เหมาะกับธุรกิจของเรา โดยบางคนอาจจะเข้าไปคุยกับ agency หรือ website studio แล้วพบกับคำศัพท์ประเภทเว็บไซต์ ที่ยากจะเข้าใจ วันนี้ผมจะมาอธิบายประเภทของเว็บไซต์ รวมถึงความแตกต่างของแต่ละอันให้ครับ
เราสามารถแบ่งประเภทเว็บไซต์ได้หลักๆ 8 ประเภท
1. Corporate Website
เป็นเว็บไซต์ที่ใช้เล่าถึงบริษัทหรือหน่วยงานโดยมีเป้าหมายหลักๆคือ การประชาสัมพันธ์บริษัท โดยจะมีการเล่าเรื่องราวประวัติ จะมีการพูดถึง Services ข่าวสาร และข้อมูลการติดต่อ
เหมาะกับ
- บริษัทที่ต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- หน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน
ตัวอย่างเว็บไซต์
- http://grassrootinnovation.net
- http://cafevelodome.com
- http://awiihouse.com
- http://tts2004.co.th
- http://sci.ku.ac.th
- http://chatluang.com
2. Ecommerce Website
หรือเว็บไซต์ขายของ ก็ตรงตามชื่อ คือเว็บไซต์นี้จะมีการซื้อขายบนเว็บ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ รองเท้า กระเป๋า หรือแม้แต่การขายสินค้าที่จับต้องไม่ได้ เช่น เพลง รูปภาพ โดยจะมีการชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ เช่น บัตรเครดิต หรือโอนเงิน
เหมาะกับ
- สินค้าที่กลุ่มเป้าหมายเข้าใจการซื้อออนไลน์อยู่แล้ว
- สามารถเปิดเผยราคาสินค้าได้
- ร้านค้าที่อาจจะมีหน้าร้านอยู่แล้ว แต่อยากจะเพิ่มช่องทางออนไลน์
ตัวอย่างเว็บไซต์
3. Catalogue Website
เว็บไซต์ Catalogue จะคล้ายกับ Ecommerce Website แต่แตกต่างกันตรงที่จะไม่สามารถชำระเงินได้ แต่จะเป็นการขอใบเสนอราคา หรือการติดต่อเพื่อขอทราบรายละเอียดราคา
เหมาะกับ
- สินค้าที่มีราคาสูง และจะต้องมีการประเมินราคาก่อน
- ไม่สามารถเปิดเผยราคาสินค้าได้
- สินค้าที่ไม่ได้ขายให้กับคนทั่วไป อาจจะมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม
ตัวอย่างเว็บไซต์
4. Single page Website
เว็บไซต์ประเภทนี้มีหน้าเดียว จะไม่มีการลิงก์เข้าไปในหน้าอื่นๆ ดังนั้นข้อมูลต่างๆจะต้องถูกสรุปไว้ในหน้าเดียว ซึ่งเว็บไซต์ประเภทนี้จะได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากคนใช่มือถือ ซึ่งจะสะดวกในการเลื่อนเพื่ออ่านข้อมูลทุกอย่างในหน้าเดียว โดยในหน้านี้มักจะมีฟอร์มให้กรอกข้อมูลติดต่อเพื่อทำการตลาดต่อ
เว็บไซต์ประเภทนี้เหมาะกับ
- เว็บไซต์ขายคอนโด หรืออสังหา ที่มี location เดียว
- เว็บไซต์ที่ต้องการใช้ทำเป็น landing page แล้วเชื่อมกับ Google Ads
- เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่มากนัก สามารถสรุปในหน้าเดียวได้
ตัวอย่างเว็บไซต์
5. Portfolio Website
ใช้สำหรับการโชว์ผลงาน โดยเน้นหนักไปที่ผลงาน มากกว่าเนื้อหาอื่นๆ จุดประสงค์ของเว็บไซต์ประเภทนี้ คือการที่ต้องการให้คนเข้าชม สามารถเห็นผลงาน และรายละเอียดเกี่ยวกับงานได้ โดยมีการออกแบบเพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์ หรือบริษัทได้
เหมาะกับ
- บริษัทออกแบบ สตูดิโอออกแบบ
- ศิลปิน หรือ ช่างถ่ายภาพ
ตัวอย่างเว็บไซต์
- https://1dd.co
- http://tidtangvisuallab.com
- http://dinstudio.co
- http://novelofficial.com
- http://unknownordinary.co
6. Magazine Website
หรือเว็บไซต์ข่าว หรือเว็บไซต์บทความ เป็นเว็บไซต์ที่ต้องการนำเสนอเนื้อหาเป็นตอนๆ ที่จะมีความต่อเนื่องในการอัพข้อมูล อาจจะมีนักเขียนคนเดียว หรือมากกว่า 1 คนก็ได้ มักจะแบ่งบทความเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อการจัดข้อมูลที่เป็นระบบ เว็บไซต์ประเภทนี้จะคาดหวังจำนวนคนเข้าจำนวนมาก ดังนั้นการออกแบบเพื่อรองรับคนจำนวนมาก จึงมีความสำคัญ ทั้งในเรื่องของความเร็ว Accessibility และความเสถียรของเว็บไซต์
เหมาะกับ
- สำนักข่าว
- นิตยสาร
- มูลนิธิ
- เว็บไซต์ให้ความรู้
ตัวอย่างเว็บไซต์
7. Booking Website
หากธุรกิจของคุณจะต้องมีการจองผ่านเว็บไซต์ Booking Website จะเป็นประเภทที่เหมาะกับคุณ เพราะนอกจากที่หน้าเว็บจะโชว์เนื้อหาเกี่ยวกับการให้บริการ แสดงราคา และเรื่องราวของธุรกิจแล้ว ยังสามารถจอง และอาจจะสามารถจ่ายเงินผ่านเว็บไซต์ได้เลย โดยระบบการจองจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. ระบบการจองที่อยู่บนเว็บไซต์ (อาจจะเป็นระบบที่เขียนเองหรือใช้ plugin) 2. ระบบการจองที่อยู่นอกเว็บไซต์ (3rd party service) การเลือกใช้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน
เหมาะกับ
- เว็บไซต์โรงแรม
- เว็บไซต์คลีนิค, เว็บไซต์ร้านตัดผม
- เว็บไซต์ event
- เว็บไซต์สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมีการซื้อตั๋ว
ตัวอย่างเว็บไซต์
- http://onceagainhostel.com
- http://nandaheritage.com
- http://worldexplorer.co.th
- http://amphawananon.com
- http://tanhostelxcafe.com
- http://iriyabod.com
- https://nappinesshotel.com
8. Web app
หากคุณต้องการเว็บไซต์ที่มีฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่นอกเหนือจากนี้ หรือต้องการมี application แต่อยากให้ใช้งานบนเว็บได้ Web app จะมีความหลากหลายมาก ตั้งแต่เว็บขายของที่มีระบบเชื่อมต่อกับคลังสินค้า มีการอัพเดทข้อมูลการจัดส่งกับผู้ให้บริการขนส่งแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงเว็บไซต์ social media ที่เราใช้งานกันอยู่ทั่วไป
เหมาะกับ
- ธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีฟังก์ชั่นแตกต่าง
- Startup
ตัวอย่างเว็บไซต์
สรุป
นั่นคือประเภทของเว็บไซต์ทั้ง 8 แบบครับ จริงๆแล้วเราสามารถผสมเว็บไซต์แต่ละประเภทเข้าด้วยได้ เช่น เว็บไซต์ corporate ที่อยากให้มี Catalogue สินค้า ด้วยก็สามารถทำได้ โดยคุณสามารถบอกเล่าถึงฟังก์ชั่นที่คุณอยากได้ให้กับทาง developer ทางทีมจะสามารถช่วยคุณคิด solution ให้กับธุรกิจของคุณได้ แต่อย่างไรก็ดี ก่อนที่เราจะเริ่มทำเว็บไซต์ เราอาจจะต้องสำรวจความต้องการของเราก่อนว่า จุดประสงค์ในการทำเว็บไซต์ของเราคืออะไร ความต้องการที่เราอยากจะได้จากเว็บไซต์คืออะไร ซึ่งเดี๋ยวผมจะมาอธิบายในบทความหน้าครับ 😀
paipure
Writer
เริ่มออกแบบและเขียนเว็บมาตั้งแต่ ม.ต้น ทำมาหมดแล้วตั้งแต่เว็บโรงแรม เว็บบริษัท เว็บร้านค้า จนถึงเว็บแฟนคลับเกาหลี! มีความสุขทุกครั้งที่เห็นคนเอาเว็บที่ทำไปใช้ประโยชน์